
1. สารไฮโดรควิโนน ในครีมทาฝ้า มีฤทธิ์ในการยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีของผิวหนัง(เมลานิน) ทำให้หน้าขาวขึ้น แต่เป็นการลดการสร้างเมลานินเพียงชั่วคราวเท่านั้น หากหยุดใช้ครีมทาฝ้าดังกล่าว สีผิวจะกลับเป็นอย่างเดิมหรือเป็นมากกว่าเดิม ข้อดีของสารไฮโดรควิโนนคือ ไม่ทำลายเซลล์สร้างสี แต่มักทำให้เกิดการระคายเคือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับกรดวิตามินเอ และหากใช้ไฮโดรควิโนนติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 6 เดือน จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อภายในผิวหนังทำให้เกิดเป็นฝ้าถาวรสีน้ำเงินอมดำ ซึ่งอาจเกิดจากการที่ผิวหนังมีการปรับตัวให้สร้างเม็ดสีมากขึ้น
![]() |
ภาพจาก เอกสารภาพนิ่ง ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1 จังหวัดตรัง |
2. สารปรอทแอมโมเนีย ในครีมทาป้องกันฝ้า หรือ เรียกกันว่าครีมไข่มุก นั้น จะออกฤทธิ์ในการลดการสร้างเม็ดสีของผิวหนัง ทำให้ใบหน้าขาวขึ้น แ่ต่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ มีผื่นแดง ผิวหน้าดำ เมื่อหยุดใช้ ผิวบางลงได้ และหากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี่สวนผสมของปรอทแอมโมเนียติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้มีการสะสมปรอทในผิวหนัง และดูดซึมเข้าสู่กระแสโลหิต ทำให้ตับ และไตพิการ โรคโลหิตจาง ทางเดินปัสสาวะอักเสบ เป็นต้น
วิธีการตรวจสอบปรอทแอมโมเนียในเครื่องสำอาง
![]() |
ภาพจากแผ่นพับ อันตรายเครื่องสำอาง ผิดกฎหมาย รุ่นที่ 4 (ผลิต กันยายน 2553) |
วิธีตรวจสอบกรดวิตามินเอในเครื่องสำอาง
ข้อมูลอ้างอิง :
1. หนังสือความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสิ่งเป็นพิษ เล่ม 15 พ.ศ. 2544 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข หน้า9-14.
ศูนย์ข้อมูลพิษวิทยา กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
2. สายด่วนอย. เมนู 1024 เรื่อง วิตามินเอ และกรดวิตามินเอ ต่างกันอย่างไร
3. เอกสารภาพนิ่ง ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1 จังหวัดตรัง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่่ค่ะ
0 comments:
แสดงความคิดเห็น
ฝากข้อความตรงนี้ค่ะ
***ขอความกรุณาอย่า SPAM นะคะ***